Saturday, August 21, 2010

ลังกาวี Go Local 1

น้ำตก Temurun ลังกาวี มาเลเซีย

ผมได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางไปลังกาวี มาเลเซียครั้งนี้จาก Tripbod นั่นคือการเดินทางแบบคนในพื้นที่เขาทำกัน หรือ go local นั่นเองครับ ผมเริ่มต้นการเดินทางไปลังกาวีโดยใช้บริการขนส่งสาธารณะจาก บขส กระบี่ ซื้อตั๋วโดยสารรถบัส กระบี่-ตรัง รถออกจากกระบี่เวลา 8.20 น. (เวลาในตั๋ว 7.30 น.) ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่งก็ถึงตรัง รถบัสแวะจอดส่งผู้โดยสารที่ท่าจอดรถในตัวเมือง คนขับรถบอกให้ลงตรงนี้ แล้วนั่งตุ๊กตุ๊กไปต่อรถที่จะไปสตูลแถวหอนาฬิกา เพราะบขส ตร้ง ไกลและอาจไม่สะดวก วันนั้นก็เลยได้นั่งรถตุ๊กตุ๊กหัวกบของเมืองตร้งเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นก็ต่อรถบัส (หวานเย็น) จากตรังไปสตูล ช่วงนี้ใช้เวลาเดินทางนานหน่อย เพราะรถจอดเป็นระยะๆ กว่าจะถึงสตูลก็ต้องนั่งอยู่บนรถบัสสามชั่วโมงได้ครับ แต่ทิวทัศน์ระหว่างทางก็ช่วยทำให้ลืมความเมื่อยล้าไปได้

รถบัสถึงตัวเมืองสตูลบ่ายสองโมงกว่าๆ ซึ่งตลอดทางก็นั่งลุ้นตลอดว่าจะทันลงเรือรอบสี่โมงเย็นมั๊ยหนอ รถไปจอดให้ที่ท่ารถสองแถวระหว่างทางที่จะไปท่าเรือตำมะลัง จากตรงนี้ก็ไปอีกไม่ไกล นั่งรถประมาณยี่สิบนาที รถสองแถวไปจอดที่หน้าท่าเรือเลย พอถึงก็รีบไปซื้อตั๋วเรือ ferry ที่เคาท์เตอร์ทันที โชคดีที่ได้ตั๋วรอบบ่ายสามโมงครึ่ง ช่วงฤดูฝนทางท่าเขาปรับตารางเวลาเดินเรือใหม่ จากสี่โมงเป็นสามโมงครึ่งแทน แต่ก็ดีที่ยังทันและได้เดินทางเร็วขึ้น ผมซื้อตั๋วแบบไป-กลับเลย เพราะขากลับจะได้ไม่ต้องกังวล หลังจากซื้อเสร็จเรียบร้อยก็ไปผ่านการตรวจหนังสือเดินทาง พอเสร็จก็ลงเรือ คราวนี้เดินทางจากพื้นดินสู่พื้นน้ำ ลงเรือ ferry ติดเครื่องปรับอากาศที่ท่าตำมะลัง สตูล การเดินทางช่วงนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงท่าเรือลังกาวี... ยังไม่สิ้นสุดแค่นี้ครับ พอถึงท่าเรือต้องผ่านการตรวงหนังสือเดินทาง และตรวจกระเป๋าด้วยถึงออกมาได้ หลังจากนั้น ก็นั่งแท็กซี่จากท่าเรือสู่ที่พักใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่พักเป็นอันเสร็จสิ้นการเดินทางโดยใช้บริการขนส่งสาธารณะจากกระบี่สู่เกาะลังกาวี กว่าจะถึงที่พักก็ราวๆ ห้าโมงกว่าๆครับ การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาเกือบสิบชั่วโมง เรียกว่าเกือบทั้งวันแต่ก็คุ้มกับประสบการณ์ใหม่ๆครับ

ขากลับก็นั่งเรือ ferry ลังกาวี-ท่าตำมะลัง สตูล รอบสิบโมงครึ่ง (ที่ท่าลังกาวีก็ปรับตารางเวลาเดินเรือช่วงฤดูฝนเช่นกัน) แล้วก็นั่งรถสองแถวไปลง บขส สตูล แต่ขากลับจากสตูลผมนั่งรถรวดเดียวไปลงกระบี่เลย เป็นรถบัส สตูล-ภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางจากสตูลถึงกระบี่ประมาณห้าชั่วโมงครับ

ท่าเรือตำมะลัง สตูล


ท่าเรือลังกาวี มาเลเซีย

Sunday, August 15, 2010

เกาะยาวน้อย ตอนที่ ๓ (ของฝากจากเกาะ)


ก่อนกลับกระบี่ ขับมอเตอร์ไซด์ไปดูทางด้านทิศเหนือของเกาะ เพื่อที่จะไปดูบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของคนบนเกาะที่ชาวไทยมุสลิมใช้อาบและดื่ม มี 2 บ่อด้วยกันผุดขึ้นมาบนหาด ระหว่างถนนกะบ่อน้ำบนหาดค่อนข้างสูงต้องเดินลงไปอีกที ลักษณะเป็นบ่อน้ำจืดที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ชาวบ้านเล่าว่า มีคนไปดื่มแล้วโรคร้ายหาย หลังจากนั้นคนบนเกาะเลยเกิดความศรัทธาพากันไปอาบ และดื่ม จนกลายเป็นบ่อน้ำศักดิ์ประจำเกาะจนถึงทุกวันนี้ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะฝนเริ่มตกแล้ว

ขากลับใช้เส้นทางลัดทางทิศตะวันตกของเกาะเพื่อที่จะไปลงเรือที่ท่าเขาในเวลา 4 โมงเย็น แต่ระหว่างทางฝนเริ่มลงเม็ดหนักขึ้นทุกที พอขับมาได้ระยะหนึ่งต้องหยุดเพื่อหาที่หลบฝนเพราะฝนเม็ดใหญ่มาก ลมแรงด้วย อีกอย่างเส้นทางด้านนี้ของเกาะต้องข้ามเขาหนึ่งลูก พอหยุดรถก็มองไปรอบๆ บังเอิญได้ยินเสียงร้องแว่วๆ และเห็นป้าคนหนึ่งโบกมือไหวๆ พร้อมกับร้องบอกว่า "มาหลบฝนที่นี่ก่อนก็ได้นะ ตกหนักมากแล้ว" เลยตัดสินใจเข้าไปหลบฝนที่บ้านของป้าคนนี้ก่อน พอเข้าไปคุณป้าก็หาเก้าอี้มาให้นั่งเพื่อรอให้ฝนหยุด ในระหว่างที่รอฝนหยุดอยู่นั้น แกได้เล่าเรื่องราวในอดีตของเกาะ และชีวิตของผู้คนบนเกาะให้ฟัง ซึ่งน่าสนใจมากว่า เมื่อห้าสิบกว่าปีที่ผ่านเกาะสมบูรณ์มาก แกย้ายมาอยู่บนเกาะเมื่ออายุประมาณ 15-16 ปี ที่เกาะมีนกเป็ดน้ำและนกกระยางอยู่เป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ทั่วไปบนเกาะ ป่าไม้และต้นไม่เขียวชะอุ่มปกคลุมไปทั่วเกาะ ผู้คนดำรงชีวิตด้วยการทำนา ทำสวน และเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหาร ตอนนั้นบนเกาะไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านต้องหาฟืนมาทำเป็นเชื้อเพลิง ยิ่งช่วงเดือนรอมาฏอนยิ่งลำบาก เพราะต้องออกไปหาฟืนมาเก็บไว้เพื่อหุงข้าว ทำอาหารเป็นจำนวนมาก บางทีกว่าจะหุงข้าว ทำกับข้าวเสร็จก็ต้องใช้เวลาจนถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง เพราะหลังจากห้าโมงเช้าไปแล้วจะกินอะไรไม่ได้ กว่าจะได้กินอีกทีก็หลังหนึ่งทุ่ม ไม่เหมือนปัจจุบันนี้ที่การท่องเที่ยวเปลี่ยนเกาะไปมาก สะดวกสบายมากขึ้น ประชากรบนเกาะก็เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับตึกรามบ้านช่อง ทำให้ทุกวันนี้ นกเป็ดน้ำและนกกระยางลดจำนวนลงมาก เรียกได้ว่าแทบจะไม่เห็นนกเป็ดน้ำเลย แต่นกกระยางก็พอเห็นอยู่บ้างแต่ก็มีจำนวนน้อยมาก... เราแลกเปลี่ยนการสนทนาไปเรื่อยๆ จนฝนเริ่มพรำๆ เลยขออำลาคุณป้าไปท่าเรือเพื่อกลับบ้าน

ของฝากที่ผมว่านั้น ไม่ใช่สิ่งของที่ผมซื้อหามาจากที่ไหน แต่เป็นมิตรไมตรีที่ดี ที่ได้มาจากคนบนเกาะกลับมานั่นเองครับ โดยเฉพาะจากป้าคนนี้ กลับมานั่งนึกเสียดายทีหลังที่นั่งคุยกันตั้งนานลืมถามชื่อ แต่แกก็ทิ้งทายก่อนกลับว่า ถ้ามาเยี่ยมเกาะอีก แวะมาทักทายกันได้เสมอ.

รูปจากเกาะยาวน้อย...

ท้องนาบนเกาะ

ทิวทัศน์รอบๆเกาะ

Saturday, August 14, 2010

เกาะยาวน้อย ตอนที่ ๒ (อาหารอร่อยๆ)

ในตอนที่ ๑ ของทริปนี้ ผมได้เล่าบรรยากาศโดยทั่วๆไปของเกาะยาวน้อย และการเดินทางจากอ่าวท่าเลนที่จังหวัดกระบี่แล้ว ตอนนี้ขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกินบ้าง ผมจะพาไปกินอาหารที่ร้านอาหารของคนพื้นที่ที่เกาะกันครับ...

ร้านนี้มีชื่อร้านว่า "ครัวอีสานทะเล" หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Sunset Restaurant" เพราะร้านตั้งอยู่ทิศตะวันตกของเกาะนั่งเองครับ ส่วนชื่อร้านที่เป็นภาษาไทยนั้น อ่านแล้วอาจสงสัยว่าเจ้าของมาจากทางภาคอีสานหรือเปล่า? พอดีผมได้มีโอกาสนั่งคุยกับเจ้าของร้าน เขาบอกว่าจริงๆแล้วเป็นคนท้องที่ครับ เพียงแต่ชอบกินอาหารอีสาน โดยเฉพาะส้มตำ เลยตัดสินใจเปิดร้านอาหารเอง ไม่เพียงมีแต่อาหารอีสานเท่านั้นนะครับ เมนูอาหารไทยอื่นๆก็มี รวมทั้งอาหารทะเลสดๆด้วย

เมนูเด็ดที่เจ้าของร้านแนะนำ และผมเองได้ชิมแล้วก็อยากแนะนำด้วย (ขอบอกว่าอร่อยจริงๆครับ)...นั่นก็คือ "ส้มตำทอด" ฟังดูน่าสนมั๊ยครับ เมนูอื่นที่ผมสั่งเพิ่มก็มี ข้าวผัดกุ้ง และกุ้งทอดกระเทียม

ส้มตำทอด


ข้าวผัดกุ้ง


กุ้งทอดกระเทียมพริกไทย

ถ้าไปที่ร้านครั้งแรกอาจจะนึกว่าเป็นบ้านพักอาศัยธรรมดา แต่บริเวณร้านจริงๆ อยู่ข้างในครับ เดินผ่านครัวไปหน่อย ก็จะเห็นร้านยื่นออกไปทางทะเล ล้อมรอบไปด้วยป่าชายเลน, ต้นโกงกาง อากาศเย็นสบาย มีลมพัดเบาๆ จากทะเล รับประทานอาหารเสร็จก็อยากจะหลับตรงนั้นเลย เจ้าของร้านและพนักงานก็เป็นกันเอง บรรยากาศเหมือนนั่งรับประทานอาหารที่บ้านจะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิดนัก วันนั้นขณะนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอยู่ก็เกิดอาการเขินขึ้นมาทันที เพราะว่ามีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมานั่งดูเรารับประทานอาหารพอดี...ไม่ใช่แขกที่ไหนครับ แต่เป็นลิงแสมนั่นเอง

พอรับประทานเสร็จอยากจะยืดเส้นยืดสาย ดูพระอาทิตย์ตกดิน ใกล้ๆจะมีท่าเรือต้นโด สามารถเดินไปจากที่ร้านได้ เป็นจุดพระอาทิตย์ตกดินที่สวยอีกจุดหนึ่งของเกาะก็ว่าได้ครับ


เจ้าของร้าน (ตรงกลาง)


บรรยากาศบริเวณร้าน


ลิงแสม (คาดว่าแวะมาเยี่ยมร้านครับ) : )

เกาะยาวน้อย ตอนที่ ๑

ทริปเล็กๆ สู่เกาะยาวน้อย พังงา... ผมเริ่มต้นการเดินทางจากอ่าวท่าเลน ต.เขาทอง กระบี่ไปเกาะยาวน้อยด้วยเรือไม้ข้ามฟากในช่วงเช้า ที่ท่าเรือทิวทัศน์รอบๆสวยมากๆ มีภูเขาหินปูนสลับกับป่าชาเลนและแม่น้ำ บรรยากาศโดยทั่วไปไม่พลุกพล่านมาก นั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมงก็ไปถึงเกาะ เรือเข้าเทียบท่าที่ท่าเขา

ท่าเรือ อ่าวท่าเลน กระบี่

อ่าวพังงาระหว่างเดินทางสู่เกาะยาวน้อย

พอขึ้นจากเรือ ก็เช่ารถมอเตอร์ไซด์จากที่ท่าเรือเลย เพราะขากลับก็ต้องมาลงเรือที่ท่านี่อีก จะได้สะดวกเวลาคืนรถ เสร็จแล้วก็ขับตรงไปที่พัก เพื่อพักผ่อนสักนิดหนึ่งและจัดการกับข้าวของที่เตรียมมาก่อนออกตระเวนรอบเกาะ

ตระเวนเกาะโดยใช้มอเตอร์ไซด์ก็สะดวกดี ขับรถรับลมชมธรรมชาติได้บรรยากาศอีกแแบบหนึ่ง สภาพเกาะโดยทั่วไป ยังไม่ถูกทำลายจากคลื่นของการท่องเที่ยวมาก ยังคงเห็นป่าไม้ ป่าชายเลน สวนมะพร้าว สวนยางพารา บ้านไม้ชั้นเดียวพื้นสูง สลับกับบังกะโลเป็นระยะๆ ผู้คนที่นี่อัธยาศัยไมตรีดี ยังยิ้มแย้มแจ่มใส ชายหาดที่นี่ก็สวยน่าเดินเล่นและถ่ายรูป ถนนหนทางรอบๆเกาะก็สะดวกดี การจราจรไม่คับคั่ง เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานด้วย อีกอย่างคนที่นี่นอกจากจะทำสวนแล้ว ยังมีการทำนาและเลี้ยงควายด้วย ภาพท้องนาเบื้องหน้า สลับกันภูเขาเบื้องหลัง เห็นแล้วก็รู้สึกสดชื่นดี (ตอนหน้าจะพาไปชิมอาหารบนเกาะกันครับ)